รื้อแล้ว! ทลฉ. สนธิกำลัง เข้ารื้อถอนร้านอาหาร-บ้านเรือนชาวบ้าน บุกรุกที่ดินของท่าเรือบริเวณชายทะเลแหลมฉบัง เพื่อนำพื้นที่มาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดจำหน่ายสินค้าของฝากต่อไป 
 เมื่อเร็วๆ นี้ ร้อยตำรวจเอกธนาบดี  ธูปเทียนรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ในวันนี้ได้สนธิกำลัง อำเภอศรีราชา, ตำรวจภูธรแหลมฉบัง, ทหารรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อ.ศรีราชา, เทศบาลนครแหลมฉบัง, ตัวแทนชุมชนแหลมฉบัง เข้ารื้อถอนร้านอาหารและบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่บุกรุกก่อสร้างในที่ดินของท่าเรือแหลมฉบัง บริเวณชายทะเลแหลมฉบัง
เมื่อเร็วๆ นี้ ร้อยตำรวจเอกธนาบดี  ธูปเทียนรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ในวันนี้ได้สนธิกำลัง อำเภอศรีราชา, ตำรวจภูธรแหลมฉบัง, ทหารรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อ.ศรีราชา, เทศบาลนครแหลมฉบัง, ตัวแทนชุมชนแหลมฉบัง เข้ารื้อถอนร้านอาหารและบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่บุกรุกก่อสร้างในที่ดินของท่าเรือแหลมฉบัง บริเวณชายทะเลแหลมฉบัง 
โดยที่ผ่านมาท่าเรือแหลมฉบัง ได้เข้ามาดำเนินการจับกุมผู้ที่ทำการบุกรุกที่ดินของท่าเรือไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ส่วนสิ่งปลูกสร้างนั้นได้ติดประกาศให้ผู้ประกอบการและชาวบ้านเร่งดำเนินการรื้อถอนภายใน 1 เดือน หากครบกำหนด เจ้าของยังไม่มารื้อถอนออกไป ทางบังคับคดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเข้ามาดำเนินการรื้อถอนดังกล่าว 
ร้อยตำรวจเอกธนาบดี  กล่าวต่อไปว่า  สำหรับร้านอาหารที่ต้องทำการรื้อในวันนี้ คือ นางสาวสมร  ภู่เพชร์ (ร้านริมชล) , นายธานี เท่งเจียว (ร้านคุณยาย) และนางธรรมนูญ กฤษณะภูติ  (ร้านเจ้จูน)  โดยใช้รถแบกโฮรื้อสิ่งปลูกสร้างที่เป็นปูนซิเมนต์ออกทั้งหมด ส่วนทรัพย์สินที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ ก็จะรื้อและกองไว้ให้กับผู้บุกรุก เพื่อดำเนินการขนย้ายออกไป  สำหรับมีร้านอาหารและบ้านเรือนของชาวบ้านที่บุกรุกเพิ่มเติมรายใหม่  ทางท่าเรือแหลมฉบังก็ต้องฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีและสั่งรื้อถอนต่อไป 
สำหรับการรื้อถอนครั้งนี้ จะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จะต้องรื้อถอนให้หมด และหลังจากนั้นทางท่าเรือแหลมฉบัง จะมีการปรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน นอกนั้นจะสร้างเป็นจุดจำหน่ายสินค้าของฝากในอนาคตต่อไป


