การท่าเรือแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ณ จังหวัดระนอง เพื่อเพิ่มปริมาณป่าชายเลน และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เปิดโอกาสให้ชุมชน และหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เมื่อเร็วๆนี้ นายกมล หมั่นทำ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนบริเวณจังหวัดระนอง โดยมี นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ร่วมเป็นประธานในพิธี และมีเรือโท ดร.ชำนาญ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ ผู้บริหารการท่าเรือฯ พร้อมด้วย ร้อยตำรวจเอก ธนาบดี ธูปเทียนรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นางสิริมา กีรตยาคม ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานสนับสนุน ท่าเรือแหลมฉบัง และ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ใช้บริการ พนักงานการท่าเรือฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ บริเวณหมู่ 4 ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง
เรือโท ดร.ชำนาญ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ เผยว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ตระหนักถึงคุณค่าของการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงปัจจัยสำคัญด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องบริหารจัดการอย่างสมดุลให้เติบโตทางด้านเศรษฐกิจ ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนคำนึงถึงวิถีการดำรงชีวิตของชุมชนโดยรอบและบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงท่าเรือ
โดย กทท.ได้บริหารจัดการร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดำเนินการปลูกป่าทดแทนและจัดฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินรองรับหากเกิดเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข ได้นำแผนดังกล่าวบรรจุในแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
สำหรับกิจกรรมปลูกป่าชายเลนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มปริมาณป่าชายเลน และลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เปิดโอกาสให้ชุมชน และหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริหารจัดการพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือจากสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 จังหวัดระนอง โดยการปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่นากุ้งเก่าบริเวณหมู่ 4 ตำบลหงาว อำเภอเมือง จังหวัดระนอง จำนวน 50 ไร่ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้ 1.โครงการซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของท่าเรือระนองสำนักท่าเรือภูมิภาค จำนวน 23 ไร่ 2.โครงการซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 25 ไร่ 3.โครงการซึ่งอยู่ในความรับผิดชองของท่าเรือกรุงเทพ จำนวน 2 ไร่