ที่ศาลาการเปรียญหลังเก่าวัดรั งษีสุทธาวาส อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ชาวบ้านแห่เข้ากราบไหว้ศพหลวงพ่ อทอง หรือ พระครูสุทธิคุณรังษี เจ้าอาวาสวัดรังสีสุทธาวาส หรือวัดไร่กล้วย ที่มรณภาพไปตั้งแต่เมื่อวันที่21สิงหาคม58สิริอายุ 94ปี ศิษย์ยานุศิษย์ หลวงพ่อทอง ได้มีการทำความสะอาดร่ างกายของหลวงพ่อทองและเปลี่ ยนสบงจีวรให้ใหม่ พร้อมนำสรีระสังขารไปบรรจุไว้ ในโลงใหม่ ซึ่งร่างกายของหลวงพ่อนั้นไม่ เน่าเปื่อย แค่ผิวหนังแห้งและมีสีคล้ำเล็ กน้อยเท่านั้น อีกทั้งผมและเล็บก็ยาวออกมาปกติ ทางวัดโดยพระครูมธุรสธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดรังษีสุทธาวาส องค์ปัจจุบัน ได้ทำการเคลื่อนสรีระสั งขารหลวงพ่อทองจากศาลาเปรียญหลั งเก่า ไปตั้งยังศาลาการเปรียญหลังใหม่ ซึ่งหลวงพ่อทอง ท่านได้ดำเนินการก่อสร้างแต่ยั งไม่เสร็จท่านมรณภาพเสียก่อน พระครูมธุรสธรรมภาณ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันได้ดำเนิ นการสานต่อจนการก่อสร้างแล้ วเสร็จ และตั้งชื่อศาลาว่าศาลาสุทธิคุ ณรังสี ซึ่งจัดให้มีพิธีทำบุญเลี้ ยงพระจำนวน 109 รูปในวันครบ2 ปีที่หลวงพ่อทองมรณภาพ และเคลื่อนสรีระสังขารหลวงพ่ อทองมาไว้บนศาลาสุทธิคุณรังสี เพื่อให้ประชาชนที่ศรัทธาได้ กราบไหว้อย่างใกล้ชิดโดยมี ด็อกเตอร์ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถั มภ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระพรหมดิลก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมีคณะศิษย์ยานุศิษย์และชาวบ้ านอำเภอศรีราชาที่ทราบข่าวว่ าศพหลวงพ่อทองไม่เน่าไม่เปื่อย ต่างเดินทางมาร่วมงานและร่วมสั กการะสรีระที่ไม่เน่าเปื่อยกั นเป็นจำนวนมาก
พระครูสุทธิคุณรังษี “หลวงปู่ทอง ปญญาทีโป” ท่านเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ปีจอ บิดาชื่อ นายสี ก้านบัว มารดาชื่อ นางไผ่ ก้านบัว ท่านเป็นชาวอำเภอพนัสนิคม ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คนหลวงปู่เป็นบุตรคนที่ 4 ในช่วงชีวิตที่ท่ านครองเพศฆราวาสนั้นได้ช่วยบิ ดา-มารดาประกอบสัมมาอาชี วะตามประสาสุจริตชนทั่วไป จากนั้นจึงได้เข้าสมัครรั บราชการทหารเป็นเวลากว่า 2 ปี ภายหลังที่ท่านใช้ชีวิตเยี่ ยงฆราวาสมาอย่างโชกโชนแล้ว หลวงปู่ท่านจึงคิดจะบวชเพื่ อแสวงหาสัจธรรมและตอนแทนพระคุ ณบุพการี ท่านจึงตัดสินใจเข้าอุปสมบทเป็ นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ณ พัธสีมา วัดเนินสังข์สกฤษฏาราม ตำบลวัดหลวง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูเจียม วัดหลวงพรหมาวาส พระกรรมวาจาจารย์ คือพระมหาเที่ยง วัดกลางทุมมาวาส พระอนุสาวนาจารย์ คือพระอธิการเอียง วัดไร่หลักทอง ได้รับยาว่า “ปัญญาทีโป” แปลว่า ผู้มีปัญญาดุจแสงสว่างแห่ งดวงประทีป ในการสร้างวัดไร่กล้วยนั้นครั้ งแรกเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2488 ก่อนหลวงปู่ทองบรรพชา 1 พรรษาชาวบ้านได้นิมนต์อาจารย์ มานิตย์ (พระพี่ชายของหลวงปู่ทอง) มาเป็นเจ้าอาวาส เพื่อมาร่วมสร้างวัดในหมู่บ้ านไร่กล้วยด้วยกัน และในปีต่อมาหลวงปู่ทอง ปญญาทีโป ท่านจึงได้อุปสมบทที่อำเภอพนั สนิคม และหลังจากนั้นได้ติดตามพระพี่ ชายมาช่วยสร้างวัดไร่กล้วย โดยร่วมกับชาวบ้านอีกแรงหนึ่ง จนในปี พ.ศ.2491 จึงได้สร้างโบสถ์ไม้สำเร็จเป็ นหลังแรก จวบจน พ.ศ.2494 ท่านอาจารย์นิด ได้ลาสิกขาบทไป คงเหลือไว้แต่หลวงปู่ทอง จึงเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาส ด้วยหลวงปู่ทองเป็นพระที่มี ความเมตตาต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก จนเป็นที่เลื่องลือ เลื่อมใส จึงเกิดศรัทธาจากชาวบ้านในบริ เวณนั้น และยังแผ่บารมี คุณธรรม ออกไปยังบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะตกทุกข์ได้ยาก ลำบากแค่ไหนเดินทางมาหาหลวงปู่ ทอง ท่านก็จะมีเมตตาต่อผู้มาพบท่ านอยู่เสมอมิได้ขาด ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร ท่านก็ให้การช่วยเหลือมาตลอด จนในปี พ.ศ.2496 หลวงปู่ทองจึงได้รับการแต่งตั้ งเป็นเจ้าอาวาส สร้างความปิติให้กับลูกศิษย์ และชาวบ้านโดยทั่วไป
หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2498 หลวงปู่ทองได้สร้างโรงเรียนวั ดไร่กล้วย ให้กับชาวบ้านใช้ในการศึกษาเล่ าเรียนของบุตรหลาน หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2501 ชาวบ้านก็ได้ช่วยหลวงปู่ทองสร้ างศาลาการเปรียญไม้จนสำเร็จ ในปี พ.ศ.2504 ในปี พ.ศ.2516 หลวงปู่ทอง ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็ นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ชั้นตรี ราชทินนามที่ พระครูสุทธิคุณรังษี ในปี พ.ศ.2522ได้รับพระราชทานสมณศั กดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ชั้นโท ในปี พ.ศ.2530ได้รับพระราชทานสมณศั กดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฏร์ชั้นเอก ในปี พ.ศ.2555 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นเทียบผู้ช่วยเจ้ าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก หลังจากนั้น หลวงปู่ทอง ก็เริ่มมีอาการอาพาธเป็ นโรคปอดติดเชื้อ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ จวบจนวันที่ 22 เดือนสิงหาคม พ.ศ.2558 เวลาประมาณ 11.10 น. หลวงปู่ทอง ปัญญาทีโป ได้ถึงแก่มรณภาพ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ด้วยอาการปอดติดเชื้อ สิริอายุ 94 ปี 68 พรรษา การมรณภาพของหลวงปู่นำมาซี่ งความโศกเศร้าเสียใจแก่ศิษยานุ ศิษย์เป็นอย่างมาก