ท่าเรือแหลมฉบัง
จัดสัมมนาถอดบทเรียนเหตุระเบิดและเกิดเพลิงไหม้บนเรือสินค้า KMTC HONGKONG ท่าเทียบเรือ A2
ท่าเรือแหลมฉบัง ชี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พ.ศ. 2550 ส่งผลให้การดำเนินการไม่เป็นระบบ
จากกรณีเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ตู้สินค้าบนเรือบรรทุกสินค้า
KMTC HONGKONG ที่ท่าเทียบเรือ A2
ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
ตำแหน่งในขณะนั้น ได้เดินทางมาที่ท่าเรือแหลมฉบังเพื่อติดตามผลความคืบหน้าเหตุการณ์ฯ
และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการหาสาเหตุรวมทั้งศึกษาถอดบทเรียนของเหตุการณ์ดังกล่าว
ล่าสุดระหว่างวันที่
5-6 ส.ค. นี้ ท่าเรือแหลมฉบังได้จัดสัมมนาถอดบทเรียน เหตุระเบิดบนเรือสินค้า KMTC HONGKONG ณ
ท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีตัวแทนจากเทศบาลนครแหลมฉบัง ผู้ประกอบการท่าเรือต่างๆ ในท่าเรือแหลมฉบัง
ผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง โรงพยาบาลแหลมฉบัง โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ
ศรีราชา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณจังหวัดชลบุรี เข้าร่วม ณ ห้องประชุมศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง
นายพูนสิทธิ์
อ่ำพันธุ์ ตัวแทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ในครั้งนี้
พบว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พ.ศ. 2550 ที่กำหนดบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ไว้อย่างชัดเจน
ดังนั้นจึงทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวมีปัญหาและอุปสรรคและไม่เรียบร้อยเท่าที่ควร
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณท่าเทียบเรือ
A2 ในท่าเรือแหลมฉบัง แต่ทั้งสองหน่วยงานระงับเหตุการณ์ไม่ได้และปัญหาส่งผลกระทบสู่ประชาชนภายนอก
ดังนั้นท้องถิ่นในพื้นที่ คือ เทศบาลนครแหลมฉบัง ซึ่งตาม พ.ร.บ. ปี พ.ศ.2550 นั้น
นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง จะต้องเป็นผู้อำนวยการในการสั่งกับหน่วยงานต่างๆ ได้ทันที
โดยหน่วยงานนั้นๆ เป็นผู้สนับสนุนข้อมูลต่างๆ แต่ถ้าเหตุการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้นและต้องประสานหน่วยงานข้างเคียง
ซึ่งจะต้องยกระดับให้นายอำเภอศรีราชาเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ดังกล่าวทันที โดยมีหน่วยงานต่างๆ
ให้การสนับสนุนเพื่อวางแผนแก้ไขหากเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นก็ต้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
เป็นผู้ดำเนินการสั่งการต่อไป เพื่อให้การดำเนินงานแก้ไขได้เป็นระบบ
นายพูนสิทธิ์
กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์เหตุเพลิงไหม้บนเรือสินค้า KMTC HONGKONG ในครั้งนี้ไม่เป็นไปตามแผนงาน
ทำให้การสั่งงานเกิดความสับสนเพราะไม่มีศูนย์กลาง ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น
จะต้องยึดตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ที่มีกฎหมายรองรับอย่างถูกต้อง
การดำเนินการแก้ไขสถานการณ์จะง่ายขึ้นและเป็นไปตามระบบ
ด้านนายวีระชาติ
พุทธรักษา ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า จากการจัดสัมมนาถอดบนเรียนดังกล่าว
ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงจุดบกพร่องและปัญหาต่างๆ ในการปฏิบัติงาน
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้มาเปิดใจคุยกัน ซึ่งทางท่าเรือแหลมฉบังจะนำผลที่ได้จากการถอดบทเรียนในครั้งไปใช้จริงในการประชุมเชิงปฏิบัติการการฝึกซ้อมแผนรักษาความปลอดภัย
ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13- 17 ส.ค.นี้
โดยการอบรมเชิงปฏิบัติการฯ
นี้ ท่าเรือแหลมฉบังได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาในการส่งผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้
และได้มีการดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 15 ปี โดยมีผู้บริหาร พนักงานท่าเรือแหลมฉบัง
พร้อมด้วยผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เข้าร่วมการฝึกอบรม