สวัสดีครับ...พบกับ www.ศรีราชาโพสต์.com โฉมใหม่!! "สร้างสรรค์ ดูแลกัน ทันเหตุการณ์" ***สวัสดีครับ...พบกับ www.ศรีราชาโพสต์.com โฉมใหม่!! "สร้างสรรคฺ์ ดูแลกัน ทันเหตุการณ์" ***ประชาสัมพันธ์ข่าวสารส่งมาได้ที่ kk.udomsuk@gmail.com

ฮัทชิสัน พอร์ท ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ในท่าเรือแหลมฉบัง ลงทุน 2 หมื่นล้าน เปิดท่าเทียบเรือชุด D พัฒนาให้เป็นท่าเรือน้ำลึกที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย


ฮัทชิสัน พอร์ท ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ในท่าเรือแหลมฉบัง ลงทุน 2 หมื่นล้าน เปิดท่าเทียบเรือชุด D พัฒนาให้เป็นท่าเรือน้ำลึกที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย นำเทคโนโลยีควบคุมระยะไกลอย่างเต็มรูปแบบมาใช้ เพิ่มความสามารถรองรับตู้สินค้าได้ 40%
วันนี้ (30 ม.ค.62) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีเปิดท่าเทียบเรือชุด D อย่างเป็นทางการ ที่ท่าเทียบเรือ D บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย จำกัด ผู้บริหารและประกอบการ ในท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วยประธานกรรมการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย
มร.สตีเฟ่น แอชเวิร์ธ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย กล่าวว่า ท่าเทียบเรือชุด D เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ที่สุดของท่าเรือแหลมฉบังในขณะนี้ และได้รับเรือขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเข้ามาเทียบท่าแล้ว ซึ่งมีความพร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือที่ทันสมัยในระดับโลก ทั้งในด้านประสิทธิภาพ และประสิทธิผลจำนวนเม็ดเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท ที่ลงทุนไปกับท่าเรือชุดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า บริษัทฯ พร้อมที่จะลงทุนระยะยาวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยอย่างจริงจัง และนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่การขนถ่ายตู้สินค้าขึ้นและลงเรือทั้งหมด ถูกปฏิบัติการด้วยปั้นจั่นที่ติดตั้งเทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกล หรือรีโมทคอนโทรลทั้งหมด และยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพของห่วงโซ่อุปทาน หรือ ซัพพลาย เช่นในประเทศไทย ผ่านการสร้างโอกาสในการต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ EEC
ด้าน ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับท่าเรือแหลมฉบัง เป็นท่าเรือน้ำลึกหลักในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ที่มีโครงการพัฒนาต่าง ๆ ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ที่ได้เปิดให้การบริการแล้ว รวมถึง โครงการพัฒนาต่าง ๆ ที่พร้อมรองรับการพัฒนาสู่มาตรฐานการเป็นท่าเรือระดับโลก ได้แก่ โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 โครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง และโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) อีกด้วย รวมถึงโครงการพัฒนาต่าง ๆ ที่พร้อมรองรับการพัฒนาสู่มาตรฐานการเป็นท่าเรือระดับโลก ได้แก่ โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 โครงการพัฒนาศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง และโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง (ท่าเทียบเรือ A) อีกด้วย ทั้งนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง และฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย นับว่ามีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน โดยได้เริ่มเปิดให้บริการในพื้นที่ของท่าเรือแหลมฉบัง มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ฮัทชิสัน พอร์ท เป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำงานด้านท่าเทียบเรือในระดับโลก เฉพาะที่ท่าเรือแหลมฉบัง ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย ให้บริการอยู่ในท่าเทียบเรือ A2 A3 C1 และ C2
โดยในปี 2560 บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท (ประเทศไทย) ได้ทำการขนถ่ายตู้สินค้าครบ 20 ล้านทีอียู นับว่าเป็นผู้ประกอบการท่าเทียบเรือที่ขนส่งสินค้าจำนวนมากที่สุดในท่าเรือแหลมฉบัง โครงการท่าเทียบเรือ ชุด D นี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบัง ให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 11.1 ล้านทีอียู/ปี ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ "มุ่งสู่มาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก ด้วยการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่เป็นเลิศ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2573 "อย่างรอบด้าน โดยท่าเรือแหลมฉบังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาท่าเรือแหลมบัง ให้เป็น World Class Port โดยเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นท่าเรือที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย
ด้าน นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าโครงการนี้นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ที่จะเชื่อมต่อโครงข่ายระบบคมนาคมที่จะเข้ามารองรับการขนส่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ท่าเทียบเรือชุดใหม่นี้นับเป็นพื้นฐานคมนาคมขนส่ง ให้เชื่อมโยงฐานการผลิต แหล่งเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ทั้งยังเป็นประตูการค้า เพื่อเชื่อมต่อระหว่างรูปแบบการขนส่งขึ้นพื้นฐานของต่างๆ อาทิโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โครงการรถไฟทางคู่จากแหล่งอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ที่เชื่อมสู่ท่าเรือแหลมฉบัง มาบตาพุดและสัตหีบ สำหรับการขนส่งสินค้าระบบรางที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ และโครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เทคโนโลยีสมัยใหม่ในท่าเทียบเรือชุดD ช่วยยกระดับการให้บริการขนส่งและบริหารจัดการระบบคมนาคมขนส่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0' โมเดลใหม่ของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยที่มุ่งปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่'เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม'นับเป็นโครงการที่สอดรับกับร่างยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม มุ่งพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี ระหว่างปี พ.ศ. 2560 – 2579 สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลที่ต้องการสร้างชาติที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย เป็นสมาชิกของกลุ่มฮัทชิสัน พอร์ท ซึ่งเป็นส่วนงานหนึ่งของบริษัท ซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ จำกัด (CK Hutchison Holdings Limited) ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านท่าเทียบเรือและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ฮัทชิสัน พอร์ท เป็นผู้ลงทุน พัฒนาและดำเนินกิจการด้านท่าเทียบเรือชั้นนำของโลก มีเครือข่ายท่าเทียบเรือถึง 51 แห่ง กระจายอยู่ใน 26 ประเทศทั่วโลก ทั้งใน เอเซีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฮัทชิสัน พอร์ท ได้ขยายกิจการครอบคลุมไปถึงธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ ท่าเทียบเรือโดยสาร บริการท่าอากาศยาน ศูนย์กระจายสินค้า บริการขนส่งด้วยระบบรางและอู่ซ่อมเรือ ในส่วนของที่ท่าเรือแหลมฉบังโดยมีจุดให้บริการในแหลมฉบังอยู่ที่ ท่าเทียบเรือ A2, A3, C1, C2, D1, D2 และ D3 เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ ท่าเทียบเรือชุด D จะมีความยาวหน้าท่ารวมทั้งสิ้น 1,700 เมตร น้ำลึก 16 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลางประกอบไปด้วยปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าจำนวน 17 คัน และมีปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยางจำนวน 43 คัน
ทั้งหมดใช้เทคโนโลยีควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกล เพิ่มความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ราว 3.5 ล้านทีอียูต่อปี โดยเพิ่มความสามารถในการรองรับตู้สินค้าของท่าเทียบเรือแหลมฉบังได้อีกราว 40 เปอร์เซ็นต์ หรือให้สามารถรองรับตู้สินค้าได้ทั้งสิ้น 13 ล้านทีอียู ทั้งนี้ การเลือกใช้เทคโนโลยีการควบคุมระบบปฏิบัติงานจากระยะไกลจะเพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ให้กับสายการเดินเรือ รวมถึงผู้ใช้งานท่าเทียบเรือรายอื่นๆ








paitoon Banner2 ท่าเรือLCB ไทยออยล์ ปตท. แปซิฟิค