ผู้ว่าฯชลบุรี ลงพื้นที่แหลมฉบัง หนึ่งในพื้นที่สำคัญของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ย้ำชาวบ้านทุกๆ คนจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภค
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานบรรยายพิเศษเรื่องโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ให้กับ 23 ชุมชนในเขตพื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังกว่า 500 คน ณ ศาลาประชาคมอ่าวอุดม อ.ศรีราชา
นายภัครธรณ์ กล่าวว่า โครงการ EEC ที่จะเกิดขึ้นในจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะในเขตพื้นที่แหลมฉบังนั้น ประชาชนจะได้ประโยชน์จากโครงการนี้อย่างแน่นอน ที่เห็นชัดเจน คือในเรื่องของโครงการพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค รวมไปถึงโครงการใหญ่ เช่น โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ที่รัฐบาลมีนโยบายจะขยายท่าเรือ เพื่อรองรับปริมาณสินค้าที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งรองรับตู้คอนเทนเนอร์ และส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้นด้วย
โดยเป้าหมายหลักของ EEC ตามที่รัฐบาลกำหนด คือ จะต้องไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเกิด EEC แล้ว และจะต้องมีผลลงไปสู่ประชาชนให้มากที่สุด รวมทั้งภาคสนับสนุนต่างๆ จะต้องได้รับผลจากการเติบโตของ EEC ส่วนในเรื่องของผลกระทบในพื้นที่ก็อาจจะมีบ้าง เช่นปัญหาการจราจร ซึ่งภาครัฐต้องมีมาตรการในแก้ไข
นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ผ่านบริเวณแหลมฉบัง และอำเภอศรีราชา ดังนั้นโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรัฐบาลจะต้องเตรียม ทั้งระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการต่างๆ ทำให้เกิดความเจริญเติบโตในพื้นที่ ซึ่งความเจริญเข้ามาในพื้นที่แล้ว ประชาชนก็จะมีทางเลือกมากขึ้น เนื่องจากมีการเข้ามาลงทุนเข้ามาเป็นจำนวนมหาศาล
นายภัครธรณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อความเจริญเกิดขึ้น โดยเฉพาะโครงการขยายท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 โดยกลุ่มชาวประมงอาจได้รับผลกระทบ แต่รัฐบาลจะมีอาชีพเสริมในการรองรับ โดยอาจจะมีอาชีพในเขตท่าเรือแหลมฉบัง นอกจากนี้โครงการ EEC ยังมีเงินกองทุน ซึ่งสามารถนำมาดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่างๆที่มีการพัฒนาอีกด้วย สำหรับในอนาคต พื้นที่แหลมฉบังจะต้องมีการวางแผนพัฒนา เพื่อรองรับการเติบโต ทั้งในด้านของสินค้าทางการเกษตร, สินค้าด้านการประมง หรือการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวพักผ่อน และมาใช้จ่ายในพื้นที่ เช่นซื้อสินค้า หรือของที่ระลึก เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเรื่องนี้ทางจังหวัดจะต้องเตรียมโครงการดังกล่าวไว้ให้ กับประชาชนในพื้นที่แหลมฉบัง
ทั้งนี้โครงการ EEC จะได้เห็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้น และสามารถมองออกว่าอะไร เป็นอะไรได้ โดยคาดว่าภายในเดือน ก.พ. 62 นี้ รัฐบาลจะลงนามในสัญญาก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3, สร้างสนามบินอู่ตะเภา และรถไฟความเร็วสูง โดยหลังจากนั้นจะมีโครงการพัฒนาสินค้าทางการเกษตร, การท่องเที่ยวชุมชน ดังนั้นประชาชนต้องรวมกลุ่มกัน โดยหากสนใจในเรื่องไหน ก็ให้เสนอจังหวัดพิจารณาได้ เช่น สินค้าโอทอป, นวัตวิถี, แหล่งท่องเที่ยวชุมชน โดยในอนาคต จะนำระบบดิจิตอล ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ เข้ามาช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน เช่น มีที่พักอยู่บริเวณไหน ก็จะสามารถทราบได้ทันที
โครงการ EEC จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น ทุกเรื่อง และถ้าประชาชนต้องการจะได้อะไรก็รวมกลุ่มกันและนำมาเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด โดยยืนยันว่าทุกๆ คนจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน ส่วนด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ก็จะต้องร่วมมือกันทำให้พื้นที่ของเราหน้าอยู่ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาลงทุนในพื้นที่ จะต้องคุมได้และต้องไม่เกิดมลภาวะและไม่ส่งผลกระทบ ถ้าหากคุมไม่ได้ ก็ไม่ให้เข้ามาลงทุนอย่างแน่นอน ที่สำคัญประชาชนทุกคนจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมทั้งสิ้นเพื่อช่วยกันดูแลพื้นที่และสังคมของเรา