อาเซียนรวมพลังหารือประเทศบวกสาม “จีน
ญี่ปุ่น เกาหลี”
และ“สหพันธรัฐรัสเซีย”มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนในภูมิภาค
พร้อมมุ่งสู่ความเป็นเอกภาพในประชาคมอาเซียน
นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เป็นประธานเปิดการประชุม 10 ประเทศอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้
ครั้งที่ 39 สมัยพิเศษ รวมพลังหารือประเทศบวกสาม “จีน
ญี่ปุ่น เกาหลี” และ “สหพันธรัฐรัสเซีย”
มุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนในภูมิภาค
พร้อมมุ่งสู่ความเป็นเอกภาพในประชาคมอาเซียน ณ โรงแรมดุสิตธานี เมืองพัทยา
โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การตอนรับ
นายลักษณ์ วจนานวัช
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า
ภายหลังเปิดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้
ครั้งที่ 39 สมัยพิเศษ (Special SOM-39th AMAF) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ณ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ว่า การเกษตรคือวิถีชีวิตของประชาชนในอาเซียน ซึ่ง 8 ใน
10
ของประเทศอาเซียนต้องพึ่งพาภาคการเกษตรและผลผลิตทางการเกษตร
ซึ่งปัจจุบันความยั่งยืนในภาคการเกษตรประสบกับภัยคุกคามจากความท้าทายต่าง ๆ อาทิ
ความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทำประมงที่ผิดกฎหมาย การประมงที่ขาดการรายงาน
การประมงที่ขาดการควบคุม (IUU) และดินขาดความอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น
จึงจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามเพื่อสร้างความมั่นใจว่าภาคการเกษตรจะยังคงเป็นแหล่งอาหารและรายได้หลักของอาเซียน
และจะยังคงเป็นแหล่งผลิตอาหารอันดับต้นของโลก
รัฐบาลจึงต้องพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและพร้อมรับกับความท้าทายในรูปแบบใหม่
เพื่อจะเป็น “ภาคการเกษตรที่ฉลาดปราดเปรื่อง และยั่งยืน” ซึ่งจะต้องร่วมมือกันในภูมิภาคเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่การผลิต
เสริมสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัย ส่งเสริมการตลาดนำการผลิต
และสร้างเสถียรภาพราคาพืชผล โดยใช้ความรู้และนวัตกรรม
โดยเฉพาะการส่งเสริมเทคโนโลยีและเกษตรอัจริยะ 4.0
การเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล
การสร้างแรงบรรดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่เพื่อก้าวเข้าสู่ภาคการเกษตรและกลายเป็นเกษตรกรยุคใหม่
รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและเอกชนในรูปแบบประชารัฐด้วย
สำหรับการประชุมในวันนี้
เป็นการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้
ครั้งที่ 39 สมัยพิเศษ
เป็นระดับปลัดกระทรวงที่กำกับดูแลด้านการเกษตรและป่าไม้ของประเทศอาเซียน 10
ประเทศ คือ บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์
ไทย และเวียดนาม นอกจากนี้ จะมีการหารือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับองค์กรระหว่างประเทศ
เช่น องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture
Organization of the United Nations หรือ FAO) องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
(The Organization for Economic Co-operation and Development: OECD) และสภาเศรษฐกิจโลก
(World Economic Forum - Grow Asia) และการหารือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนกับประเทศบวกสาม
คือ จีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี
รวมทั้งการหารือระหว่างอาเซียนกับสหพันธรัฐรัสเซีย
นายลักษณ์ วจนานวัช
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า
“ความร่วมมือจากประเทศอาเซียนจะสามารถก้าวไปข้างหน้าเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืนในภูมิภาค
รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในภาคการเกษตร
เพื่อนำไปสู่ความเป็นเอกภาพในประชาคมอาเซียน และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติในปี
2030 และควรใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย
ภายใต้แนวคิด win-win partnership โดยผ่านการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาองค์การระหว่างประเทศ
สถาบันการเงิน อีกทั้งต้องบูรณาการแนวคิดที่จะต้อง “ร่วมกันคิด ร่วมกันทำงาน
และร่วมมือกัน” จะทำให้สามารถก้าวไปได้อย่างมั่นคงโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
และสิ่งเหล่านี้จะนำให้ประชาชนและเกษตรกรมีความสุขได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”