นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี
เป็นประธานพิธีเปิดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดชลบุรี ประจำปี 2561 ณ บริเวณหอพระพุทธสิหิงค์ฯ
อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
จังหวัดชลบุรี ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี
เทศบาลเมืองชลบุรี และยุวพุทธิกสมาคมชลบุรี ในพระสังฆราชูปถัมภ์
จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2561 และในปีนี้เป็นปีที่ 62
ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐภาคเอกชน ที่ตั้งเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งโบราณประเพณี
และศาสนพิธีของชาวพุทธ ให้สืบทอดเป็นสมบัติของชาติและมรดกทางวัฒนธรรมไทยต่อไป
นายสามารถ เที่ยงพูนวงศ์ วัฒนธรรมจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า
จังหวัดชลบุรี จัดกิจกรรมงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ได้มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน
และสถานศึกษา ที่เข้าร่วมกิจกรรมประกวดขบวนแห่เทียนพรรษาจำนวน 14 แห่ง ไม่ร่วมประกวด 7 แห่ง และผลการประกวด รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนสาธิต "พิบูล
บำเพ็ญ" - มหาวิทยาลัยบูรพา ได้รับเงินรางวัล 8,000 บาท
พร้อมถ้วยรางวัล รองชนะเลิศ อันดับ1 ได้แก่
โรงเรียนประภัสสรวิทยา ชลบุรี ได้รับเงินรางวัล 6,000 บาท
พร้อมถ้วยรางวัล รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่
โรงเรียนชลราษฏรอำรุง ได้รับเงินรางวัล 4,000 บาท
พร้อมถ้วยรางวัล ส่วนรางวัลชมเชย มี 4 รางวัล ได้แก่
วิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี สำนักการศึกษา เทศบาลเมืองชลบุรี
วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดชลบุรี และโรงเรียนสภาพรวิทยา
ได้รับเงินรางวัลละ 1,500 บาท พร้อมถ้วยรางวัล
นอกจากนี้จังหวัดชลบุรีได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษา
ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา รวมทั้งหมด 150 ทุน
และมอบเทียนพรรษาถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ให้แก่วัดต่างๆ
ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน 400 ต้น
โดยมอบให้นายอำเภอแต่ละอำเภอ จำนวน 11 อำเภอ
เพื่อนำไปถวายวัดเป็นพุทธบูชาเทศกาลเข้าพรรษาจากอำเภอนำไปถวายวัดต่างๆ
เพื่อจักได้รักษาประเพณีวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า
การจัดงานแห่เทียนพรรษา แม้จะมีการปรับปรุงพัฒนาไปตามยุคตามสมัย
แต่ก็ยังจำเป็นต้องร่วมมือร่วมใจกันรักษาประเพณีโบราณไว้ให้ปรากฏสืบไปด้วยความภาคภูมิใจ
ในประเพณีไทย เอกลักษณ์ไทย เพราะถ้าคนไทยไม่ช่วยกันรักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยไว้
ยังเป็นการชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการร่วมมือร่วมใจของแตะละสถาบันด้วยว่า
ทำด้วยใจรัก ด้วยแรงศรัทธา ประชาชนที่ชมขบวนแห่จะได้คำตัดสินเอง
ส่วนการได้รับรางวัลหรือไม่นั้น อย่าถือเป็นปัญหาในการทำงาน
ขอให้ถือหลักการและอุดมการณ์ในการทำงาน เพื่อการกุศลเป็นหลักเพื่อประกาศว่าพวกเราทุกคนทุกท่าน
ยังรักประเพณีคู่บ้านคู่เมืองอยู่ และจะสืบสานต่อไป