กรมศุลฯ ทำลายของกลาง “ตู้เกมไฟฟ้า แผงวงจร เฟรมตู้” ที่คดียืดเยื้อมานาน 10 ปี โดยของกลางมีมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 50 ล้านบาท ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี
วันนี้ (16 พ.ค.61) นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร, นายชัยยุทธ คำคุณ รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร, นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยนายเชาวลิตร แสงอุทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายนิติ วิวัฒน์วานิช นายอำเภอศรีราชา, นายวีระศักดิ์ แจ้งการ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง และนางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ร่วมในพิธีทุบทำลายของกลางที่คดีสิ้นสุดแล้ว
สำหรับของกลางที่ทุบทำลายในครั้งนี้ ประกอบด้วย ตู้เกมไฟฟ้า จำนวน 531 เครื่อง เฟรมตู้และแผงวงจร จำนวน 7,055 ชิ้น รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 50 ล้านบาท โดยใช้รถแบ็กโฮ ทุบทำลายอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้นำเศษซากของกลางดังกล่าวไปใช้งานได้ต่อไป
นายกุลิศ กล่าวว่า ของกลางที่ทำลายในครั้งนี้ เป็นสินค้าที่หลีกเลี่ยงศุลกากร 6 แฟ้มคดี และของกลางคดีพนักงานฝ่ายจับกุม (ตำรวจ) 4 แฟ้มคดี รวม 10 แฟ้มคดี ซึ่งเป็นแฟ้มคดีตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ถึง ปี พ.ศ. 2558 โดยคดีถึงที่สุดแล้ว โดยมีความผิดฐานหลีกเลี่ยงข้อห้ามข้อกำกัด อันเป็นความผิดตามมาตรา 99, 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และฝ่าฝืน มาตรา 5 ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง การนำเครื่องเล่นเกมเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2548 พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 และเข้าข่ายเป็นของเสียอันตรายตามอนุสัญญาบาเซลฯ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ.2556 แห่ง พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ.2535
ที่ผ่านมา กรมศุลกากรเข้มงวดในการปราบปรามจับกุมสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงตามพระราชบัญญัติศุลกากรและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของกรมศุลกากร โดยสินค้าของกลางทั้งหมดที่ทำลายในครั้งนี้ ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น และจีน