รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ EEC. เมืองศรีราชา เมืองท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม และเพื่ออยู่อาศัย โดยในอนาคตพื้นที่บริเวณศรีราชา-อ่าวอุดม ควรแยกพื้นที่ท่องเที่ยวแบบดั้งเดิมกับอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ออกจากกัน เพื่อรักษาแนวท่องเที่ยวเชิงท้องถิ่นไว้ แล้วเดินทางไปตรวจการขยายท่าเรือและศูนย์ควบคุมความปลอดภัยในการเดินเรือ
วันนี้ (4 ก.พ.61) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC. โดยในครั้งนี้ได้เดินทางมาดูท่าเทียบเรือจรินทร์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่แรก ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือเพื่อการขนส่งทางน้ำไปยังเกาะสีชังและเมืองศรีราชาอยู่ในพื้นที่ EEC. เป็นชุมชนดั้งเดิมและเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวเพื่ออยู่อาศัย มีการประมงพื้นบ้านมานาน โดยมีนายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา และนายปรีชา เรืองอร่าม รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ให้การต้อนรับการตรวจเยี่ยมครั้งนี้
นายไพรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลมีโครงการขนาดใหญ่ในการพัฒนาพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC. ซึ่งเมืองศรีราชาก็อยู่ในพื้นที่ EEC. ที่สำคัญเมืองศรีราชายังเป็นชุมชนดั้งเดิม และเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวเพื่ออยู่อาศัย และการประมงพื้นบ้าน ซึ่งยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ดังนั้นหน่วยงานในพื้นที่โดยเฉพาะ เทศบาลเมืองศรีราชา ต้องบริหารจัดการหรือควบคุมให้ดี เพราะหากปล่อยให้สภาพเป็นเช่นนี้ คือ การจราจรติดขัด, ท่าเรือท่องเที่ยวไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยสะดวกสบายแล้วนักท่องเที่ยวก็จะเดินทางข้ามพื้นที่เมืองศรีราชาไปท่องเที่ยวพื้นที่อื่นแทน ซึ่งจะเสียโอกาสเป็นเมืองท่องเที่ยวไป ขณะนี้พื้นที่เมืองศรีราชา อยู่ในโครงการ EEC. ซึ่งจะมีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่น รถไฟฟ้าความเร็วสูงจะผ่านในพื้นที่นี้ โดยจะมีสถานีรถไฟฟ้าตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา 1 จุด ดังนั้นเทศบาลเมืองศรีราชา จะต้องมีแผนเพื่อของบประมาณจากโครงการ EEC. ด้านการท่องเที่ยวเข้ามา ซึ่งขณะนี้ทราบว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอแผนพัฒนาด้านการท่องเที่ยวในการประชุม ครม.สัญจร ครั้งนี้ งบประมาณ 30,000 กว่าล้านบาท หากเมืองศรีราชาไม่มีแผนงานก็ไม่สามารถนำงบมาพัฒนาได้ ทั้งๆที่อยู่ในพื้นที่ EEC. แต่อย่างไรก็ตามพร้อมจะประสานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายไพรินทร์ กล่าวอีกว่า เมืองศรีราชานั้นอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มีเส้นทางการเดินทางที่สะดวกสบาย มีแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนที่หลากหลาย ซึ่งควรจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ และสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณจากส่วนกลางนำมาพัฒนาพื้นที่ นอกจากนั้นในอนาคต พื้นที่ในทะเลบริเวณดังกล่าวจะไม่ควรมีการขยายสิ่งล่วงล้ำลำน้ำเพื่ออุตสาหกรรมอีกแล้ว ซึ่งมีเท่าไรก็ให้พอแค่นั้น โดยอาจจะร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศเขตพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้ชัดเจนต่อไป เพราะปัจจุบันนี้พื้นที่บริเวณศรีราชา-อ่าวอุดม-แหลมฉบัง มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยควรจะต้องจัดระเบียบ เนื่องจากบริเวณแห่งนี้ มีทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เช่น เกาะลอยศรีราชา และเกาะสีชัง ดังนั้นควรแยกพื้นที่ท่องเที่ยวแบบชุมชนดังเดิมในการทำประมง ให้ออกจากอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ เช่น การขนถ่ายตู้สินค้า เพื่อรักษาแนวท่องเที่ยวเชิงท้องถิ่นไว้ ซึ่งได้แนะนำรูปแบบต่อผู้นำท้องถิ่นไปแล้ว
หลังจากนั้น นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจดูการ ขยายท่าเรือ เคอรี่ สยามซีพอร์ต ท่าขนถ่ายสินค้าส่งออก ซึ่งมีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ที่สำคัญ เป็นการลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการขนถ่ายสินค้าแล้วก็เดินทางต่อไปดูระบบการควบคุมจราจรและความปลอดภัยทางทะเล สำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า หรือเขาเรด้าแหลมฉบัง โดยสถานที่แห่งนี้ จะดูแลการจราจรทางทะเลบริเวณ ซีกขวาของอ่าวตัวกอ ของอ่าวไทย มาถึงแหลมฉบัง ซึ่งระบบและอุปกรณ์นั้น จะเป็นการเฝ้าติดตามการเดินเรือ และควบคุมความปลอดภัยในการเดินเรือ และเตรียมเพิ่มอุปกรณ์ในการดูแลการจราจร ซีกซ้ายของอ่าวตัวกอ ของอ่าวไทยเพิ่มในเร็วๆ ก่อนจะออกเดินทางต่อไปจังหวัดระยองและจันทบุรี
