นายลักษณ์ วจนานวัช รับมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในระดับพื้นที่สู่การปฏิบัติ ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน จังหวัดชลบุรี
โดยมีนายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดนโยบาย
และมาตรการต่างๆเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
ให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรได้หลายหลายมีคุณภาพและเหมาะสมกับพื้นที่
ทำแล้วมีตลาดรองรับ ขายได้ราคา ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบครบวงจร
ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เพื่อยกระดับมูลค่าสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นไป
นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า
จังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดสำคัญจังหวัดหนึ่งของประเทศไทย
มีอัตราความเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างสูงใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการท่องเที่ยว ด้านอุตสาหกรรม
และด้านการเกษตร โดยเฉพาะด้านการเกษตร มีพื้นที่เพาะปลูก จำนวน 1,145,426 ไร่ มีพืชเศรษฐกิจทีสำคัญหลายชนิด
และจากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ชลบุรีมีชายฝั่งทะเลยาว 160
กิโลเมตร มีความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารทะเล
มีการเพาะเลี้ยงสัตว์ทะเลเพื่อจำหน่ายเช่น กุ้ง หอย ปู ปลา เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโรงงานแปรรูปผลิตผลการเกษตร
เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอีกด้วย
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดให้มีการประชุมสัมมนา เรื่อง “การขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในระดับพื้นที่สู่การปฏิบัติ”
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบนโยบายการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้กับผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่
เพื่อให้เกิดการบูรณราการการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหารือร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่ร่วมกันส่งเสริม
ผลักดันภาคการเกษตรทั้งในด้านการผลิตและการตลาด โดยดำเนินการจัดประชุมสัมมนา
เป็นรายภาคจำนวน 5 ครั้ง
ซึ่งจังหวัดชลบุรีเป็นจัดการประชุมครั้งที่ 3
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาในครั้งนี้ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ
ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรอำเภอ ปศุสัตว์อำเภอ และประมงอำเภอ
รวมทั้งได้รับความร่วมมือจาก พาณิชย์จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด และภาคเอกชน
ภาคประชาชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสิ้น 1,192 คน
นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีบทบาทในการช่วยเหลือเกษตรกร
ให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยเฉพาะปัญหาสินค้าเกษตรกรราคาตกต่ำ ไม่มีตลาดรองรับ
ซึ่งต้องทำการแก่ไขโดยเร่งด่วน การกำหนดมาตรการต่างๆ
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรอย่างเป็นระบบครบวงจร
ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง ดั้งนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ได้เร่งผลักดันนโยบายสำคัญของกระทรวงฯ ลงสู่พื้นที่
เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างขัดเจนและเป็นรูปธรรมผ่านกลไกสำคัญคือบุคลากรในพื้นที่ที่มีตั้งแต่ระดับจังหวัดจนถึงระดับตำบล
การมอบนโยบายในครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเข้าใจ
และสื่อสารให้เกิดความเชื่อมโยงนโยบายจากส่วนกลางไปสู่ภูมิภาคโดยตรง
นอกจากนี้ยังเป็นเวทีในการเชื่อมประสานนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กับภาคส่วนอื่นที่ร่วมกันขับเคลื่อน ภาคการเกษตรให้ระบบการผลิตและการตลาดมีความสอดคล้องสมดุลกัน
จึงอย่างให้ทุกหน่วยงานในทุกระดับต้องให้ความร่วมมือสอดประสานการดำเนินงานร่วมกันอย่างเต็มที
เพื่อให้การขับเคลื่อนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สามารถช่วยเหลือเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งและลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของเกษตรกรได้ต่อไป