นายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บรรยาย พร้อมพาสื่อมวลชน จ.ชลบุรี เยี่ยมชม ศูนย์พัฒนาศักยภาพน้ำมัน ระหว่างวันที่ 17-18 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ปตท.ได้มีการจัดตั้ง ศูนย์พัฒนาศักยภาพน้ำมัน (Oil Business Academy : OBA) เมื่อ ปี 2557 เนื่องจากคณะผู้บริหารเล็งเห็นถึงสภาวะการแข่งขันทางการตลาดและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่รุนแรงและมีแนวโน้มที่จะเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สถาบันพัฒนาศักยภาพธุรกิจน้ำมัน หรือ Oil Business Academy (OBA) มีฐานะเป็นศูนย์ฝึกอบรม จึงจัดตั้งขึ้นมาเพื่อพัฒนาและผลักดันความสามารถของธุรกิจน้ำมันเพื่อเพิ่มคุณค่าและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น โดยศูนย์ฝึกอบรมนี้ให้บริการด้านวิชาการในหลักสูตรที่เป็นองค์ความรู้ที่สำคัญของธุรกิจน้ำมันในทุกๆ ด้านที่เป็นพื้นฐานของธุรกิจที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของธุรกิจน้ำมัน ตั้งแต่การตลาดค้าปลีก การตลาดพาณิชย์ โดยมุ่งเน้นในส่วนของน้ำมันใสและธุรกิจเสริมภายในสถานีบริการ ตลอดจนความรู้ทางด้านเทคนิคและเชิงปฏิบัติการอื่นๆ ถือเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในธุรกิจน้ำมัน ในการรวบรวมองค์ความรู้ ต่อยอด และถ่ายทอดสู่พนักงาน คู่ค้า ลูกค้า เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับ ปตท.
ทั้งนี้ ภายในสถาบันฯ มีการติดตั้งแผง Solar Cell ไว้ทั้งหมด 3 จุด จำนวน 651 แผง ซึ่งปัจจุบันสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำมาใช้ใน OBA ไดืถึง 170 kWh (กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง) ควบคู่กับการใช้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณเดือนละ 86,000 บาท และยังเป็นตัวอย่างการนำพลังงานสะอาดมาใช้ภายในองค์กรอีกด้วย
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า บทบาทภาระหน้าที่ของคลังทั่วประเทศ คือ จัดหา-รับ-จัดเก็บ- จ่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าและความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไทย ตลอดจนถึงการจำหน่ายตามแผนควบคุมคุณภาพ ที่ได้ถูกกำหนดไว้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพสูงสุดของผลิตภัณฑ์จนถึงมือผู้บริโภค ปัจจุบันคลังของ ปตท. มีจำนวน 19 คลัง แบ่งเป็นคลังน้ำมัน 11 แห่ง คลังปิโตรเลียม 6 แห่ง คลังก๊าซ 2 แห่ง ทั้งนี้ มีสถานีอากาศยานอีก 11 แห่ง
นอกจากธุรกิจน้ำมันแล้วทาง ปตท. ยังมี ธุรกิจร้านกาแฟ จากร้านกาแฟเล็กๆ ในปั๊มน้ำมัน ที่ ปตท. ตั้งขึ้นเพื่อบริการในสถานีบริการน้ำมัน พักผ่อนระหว่างเดินทาง แต่ปัจจุบันได้พัฒนาจนกลายเป็น 1 ในธุรกิจหลักของ non-oil แหล่งรายได้สำคัญของ ปตท. จากเริ่มต้นเพียงแค่ 20 สาขา ผ่านไป 15 ปี ทุกวันนี้ คาเฟ่ อเมซอน มีสาขากว่า 1,800 แห่ง ทั้งในปั๊มและนอกปั๊ม ด้วยการขยายแฟรนไชส์ เปิดสาขาตามศูนย์การค้า และยังขยายไปต่างประเทศ กว่า 100 สาขา
และล่าสุด ปตท. ได้เปิด คาเฟ่ อเมซอน ในระบบใหม่ เป็นระบบ Drive Thru โดยผู้ใช้บริการสามารถ ซื้อเครื่องดื่มผ่านระบบ Drive Thru แล้วเดินทางต่อได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาหาที่จอดรถ โดยเปิดให้บริการ สาขาแรกในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาพระราม 2 และยังมีแผนขยาย Platform Drive Thru ไปยังพื้นที่นอกสถานีบริการ ปตท. ด้วย โดยคาดว่าจะเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน ระบบ Drive Thru สาขา 2 ในไตรมาสที่ 1 ปี 2561
สำหรับสาขาต่างประเทศ ในปัจจุบันที่กัมพูชา ถือเป็น สาขาที่ ทำยอดขายต่อวันสูงสุด โดยมีสาขามากสุด 26 แห่ง ในจำนวนนี้มีสาขาที่ทำยอดขายเฉลี่ยสูงสุดต่อวันถึง 1.3-1.4 พันแก้ว โดยสูงกว่าสาขาในไทย พร้อมมีแผนขยายตลาดต่างประเทศใหม่คือโอมาน โดยเป็นการลงทุนร่วมกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติประเทศโอมาน คือ บริษัท โอมาน ออยล์ ทั้งยังเตรียมเจรจาร่วมกับนักลงทุนท้องถิ่น ในกลุ่มประเทศอาเซียน อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เพื่อขยายตลาดเพิ่มขึ้นอีกด้วยในอนาคต
