สวัสดีครับ...พบกับ www.ศรีราชาโพสต์.com โฉมใหม่!! "สร้างสรรค์ ดูแลกัน ทันเหตุการณ์" ***สวัสดีครับ...พบกับ www.ศรีราชาโพสต์.com โฉมใหม่!! "สร้างสรรคฺ์ ดูแลกัน ทันเหตุการณ์" ***ประชาสัมพันธ์ข่าวสารส่งมาได้ที่ kk.udomsuk@gmail.com

ไทยออยล์ ทุ่มงบประมาณครั้งใหญ่ เตรียมขยายโรงกลั่น พร้อมสร้างท่าเทียบเรือ ที่ 7 และ 8 เพื่อรองรับเรือขนส่งน้ำมันดิบมากขึ้น


ไทยออยล์ ทุ่มงบประมาณครั้งใหญ่ เตรียมขยายโรงกลั่นที่มีกำลังการผลิตจาก 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมสร้างท่าเทียบเรือ ที่ 7 และ 8 เพื่อรองรับเรือขนส่งน้ำมันดิบมากขึ้น เผยโดยในช่วง 4-5 ปีนี้เป็นโครงการลงทุนในประเทศครั้งใหญ่ที่สุด 

วันนี้ (27 มิ.ย.60 ) ไทยออลย์จัดกิจกรรมการผู้บริหาร พบสื่อรอบโรงกลั่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสื่อมวลชนชลบุรี และองค์กร โดยนายอธิคม เติบศิริ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และคณะผู้บริหาร ร่วมให้ความรู้ และทิศทางการดำเนินงานของไทยออยล์ 

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มีโอกาสได้พบปะสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรี สำหรับไทยออยล์ ขณะนี้มีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น โครงการวางท่อน้ำดิบ ขนาด 36 นิ้ว โครงการสร้างถังน้ำมัน พื้นที่ 200 ไร่ โครงการอาคารสำนักงานใหม่ โครงการขยายท่าเทียบเรือ 7-8 รวมทั้งโครงการในอนาคต อาทิ โครงการพลังงานสะอาด ซึ่งทางไทยออยล์ได้มีการมาตรการเฝ้าระวังและดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นระหว่างโครงการอย่างครบถ้วน 

โดยในช่วง 4 - 5  ปีนี้ บริษัทไทยออยล์ ใช้งบประมาณในการลงทุนขยายโรงกลั่นที่มีกำลังการผลิตจาก 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน เป็น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน พร้อมท่าเทียบเรือที่ 7 และ 8  เพื่อรองรับเรือขนส่งน้ำมัน ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดในการลงทุนภายในประเทศ 

ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ และในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ อีกครั้ง จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาต่อไป หากได้รับความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้วก็สามารถดำเนินการก่อสร้างในระยะเวลา 3-5 ปี คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ประมาณปี พ.ศ.2564 นี้ 

ส่วนโครงการท่าเทียบเรือที่ 7 และ 8 ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นโครงการก่อสร้างขยายท่าเรือออกไปอีก 1,452 เมตร รับเรือขนส่งน้ำมันประเภทดีเซล เบนซิน แนฟทา น้ำมันเครื่องบิน ขนาด 30,000-50,000 เดทเวทตัน ทำให้สามารถลดปริมาณเรือที่เข้าเทียบท่าเรือที่ 1-6 จากเดิมจำนวน 2,804 ลำต่อปี ลงได้ถึง 354 ลำต่อปี 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโครงการพลังงานสะอาด ที่ประสิทธิภาพการผลิตเพื่อทดแทนหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ปัจจุบันซึ่งเป็นหน่วยเก่าที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 50 ปี และมีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานลดลงตามสภาพอายุการใช้งาน มีการปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนมากยิ่งขึ้นและเพิ่มความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซเชื้อเพลิง และก๊าซจากกระบวนการผลิตซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสะอาดมาเป็นเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกและนำมาซึ่งความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน 8 

นายอธิคม กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ผลิตและจำหน่ายน้ำมันในประเทศไทย 87% เนื่องจากรับการยอมรับในเรื่องคุณภาพน้ำมันจากลูกค้า และความมั่นคงของบริษัท ส่วนอีก 13% นั้น ส่งจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น ลาว, พม่า, สิงคโปร์ และกัมพูชา และในอนาคตหากโรงกลั่นใหม่เสร็จก็จะจำหน่ายไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น  40% เนื่องจากตลาดต่างประเทศสนใจเพิ่มขึ้น เช่น จีน, เกาหลี และเวียดนาม 

สำหรับโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์นั้น มีประสบการณ์มายาวนานในเรื่องการกลั่นน้ำมัน ภายใน 5 ปีนี้ จึงไม่มีนโยบายในการตั้งสถานีจำหน่ายน้ำมันอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นเรื่องที่เราไม่ถนัดทางด้านนี้ เราจะหน้าที่ผลิตน้ำมันให้มีคุณภาพสูงสุดก่อน นอกจากนี้ยังมีโครงการสร้างอาคารสำนักงานใหม่ เพื่อให้มีความสะดวกในการทำงานและการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ โดยจะแยกไปตั้งบริเวณริมถนนสุขุมวิท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ ปี 2562










paitoon Banner2 ท่าเรือLCB ไทยออยล์ ปตท. แปซิฟิค