สวัสดีครับ...พบกับ www.ศรีราชาโพสต์.com โฉมใหม่!! "สร้างสรรค์ ดูแลกัน ทันเหตุการณ์" ***สวัสดีครับ...พบกับ www.ศรีราชาโพสต์.com โฉมใหม่!! "สร้างสรรคฺ์ ดูแลกัน ทันเหตุการณ์" ***ประชาสัมพันธ์ข่าวสารส่งมาได้ที่ kk.udomsuk@gmail.com

“ชีวานุรักษ์” โครงการอนุรักษ์แนวใหม่! องค์การสวนสัตว์ฯ ผนึกกำลังร่วมกับ บางจาก ฯ และ GISTDA ปล่อยนกกาฮัง พร้อมใช้นวัตกรรมดาวเทียมติดตามตัวสัตว์ที่พัฒนาเองครั้งแรกในไทย

 

​วันนี้ [18 กันยายน 2568] ณ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เปิดตัวโครงการ “ชีวานุรักษ์: พันธกิจเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ” โดยมีเป้าหมายสำคัญในการฟื้นฟูประชากร นกกาฮัง (นกกก) สัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ที่สูญหายไปจากพื้นที่อนุรักษ์ภาคเหนือกว่า 20 ปี
    ​
ไฮไลต์ของโครงการนี้คือการนำ นวัตกรรมเครื่องติดตามตัวสัตว์ด้วยระบบดาวเทียม (GPS Satellite Tag) ที่พัฒนาโดย GISTDA มาใช้งานจริงเป็นครั้งแรก โดยเป็นความร่วมมือที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการบูรณาการด้านเทคโนโลยีเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าอย่างเป็นรูปธรรม

   
ถือเป็น​เทคโนโลยีนำร่องเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าไทย ​โดยความร่วมมือครั้งนี้ได้รวมจุดแข็งของแต่ละหน่วยงานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยองค์การสวนสัตว์ฯ รับผิดชอบด้านการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์นกกาฮัง บริษัทบางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณและทรัพยากรที่จำเป็น  ขณะที่ GISTDA ได้นำเอาความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอวกาศมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ติดตามตัวที่มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด ทำให้สามารถติดที่ตัวนกได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อการดำรงชีวิต
    ​
อุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่เสมือนดวงตาของนักวิจัย โดยจะส่งข้อมูลการเคลื่อนที่ พฤติกรรม และการปรับตัวของนกกาฮังกลับมายังสถานีภาคพื้นดินตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้ทีมงานสามารถประเมินผลหลังการปล่อยได้อย่างแม่นยำ และรวบรวมข้อมูลเชิงลึกด้านชีววิทยาและนิเวศวิทยาของนกเงือกในธรรมชาติ
    ​
การใช้เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้การติดตามผลมีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ยังเป็นต้นแบบที่สำคัญของการนำวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมมาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐและเอกชนในการร่วมกันปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย
      ​
ในพิธีปล่อยนกกาฮังคืนสู่ธรรมชาติในครั้งนี้ เป็นการปล่อยคู่ที่ 2 ของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน และเป็นคู่ที่ 3 ของพื้นที่ป่าอนุรักษ์ภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการฟื้นคืนความหลากหลายทางชีวภาพและสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศของป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง









paitoon Banner2 ท่าเรือLCB ไทยออยล์ ปตท. แปซิฟิค