นายรังสรรค์ ศรีอนันต์ นักบริหาร 13 ท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า โครงการท่าเรือสีขาว นั้น มีการจัดตั้งเมื่อกันยายน 2565 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดูแลด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน , ปัญหาฝุ่นละออง และเรื่องที่ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือแหลมฉบังร้องขอ ซึ่งคณะทำงานท่าเรือสีขาวนั้นประกอบด้วยหลายหน่วยงาน เนื่องจาก บางเรื่อง ท่าเรือแหลมฉบังไม่สามารถทำงานได้เพียงลำพัง จึงได้มีการร้องขอหน่วยงานภายนอกหรือหน่วยงานราชการ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมทำงานด้วย เช่น ฐานทัพเรือสัตหีบ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และตำรวจสอบสวนกลาง
โดยที่ผ่านมาทางคณะทำงานฯ ได้เดินหน้าปฏิบัติงานแล้วหลายส่วนเช่น มีการสุ่มตรวจปัสสาวะพนักงานท่าเรือแหลมฉบังกว่า 200 คน ซึ่งผลปรากฏว่าทุกคนไม่พบมีสารเสพติดในร่างกายเลย นอกจากนั้นยังได้เตรียมประสานงานกับสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้า เพื่อสุ่มตรวจพนักงานขับรถของสมาคมฯ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุ ที่อาจจะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามด้านอุบัติเหตุการจราจรนั้น เป็นเจ้าหน้าที่จากภายนอกที่บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ได้เตรียมประชุมหารือเพื่อขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยเจ่าหน้าที่ตำรวจแหลมฉบังและตำรวจศรีราชา ช่วยเหลือ
นายรังสรรค์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องของฝุ่นละอองก็เป็นปัญหาสำคัญที่คณะทำงานต้องเร่งดำเนินการ โดยเบื้องต้นได้มีการติดตั้งหัวสปริงเกอร์ ฉีดละอองน้ำ บริเวณประตูตรวจสอบ ซึ่งจะเปิดไว้ตลอดเวลา และที่ผ่านมาพบว่าฝุ่นละออง PM 2.5 ภายในท่าเรือแหลมฉบับไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด
สำหรับกรณีของปัญหาตู้ตกค้าง ซึ่งทางท่าเรือฯได้ รับร้องเรียนจากผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ว่ามีผู้สินค้าตกค้างเป็นเวลานานจำนวนมากซึ่ง สร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ เนื่องจากกินพื้นที่ในการวางตู้สินค้า จึงได้มีการตรวจสอบร่วมกับ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากท่าเรือแหลมฉบังเป็นเพียงผู้ให้บริการขนส่งตู้สินค้า ในการนำเข่าและส่งออกเท่านั้น ส่วนเรื่องการตรวจสอบตู้สิ้นค้าเป็นอำนาจหน้าที่ของศุลกากร
สำหรับแผนงานท่าเรือสีขาว ต่อไปหลังจากนี้ ทางคระทำงานก็จะดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ในเบื้องต้นแล้ว ส่วนจะมีแผนเพิ่มเติมนั้นหลังจากนี้หรือไม่นั้น ทางคณะทำงาน จะต้องได้รับนโยบายจากผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังต่อไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแผนงานอะไรเพิ่มเติม