เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง พร้อมด้วย นายจุมพล ฐาปนะพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารจัดการและขับเคลื่อนยุทธ์ศาสตร์องค์กร คณะผู้บริหารกลุ่มไทยออยล์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพา ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ตัวแทนจากโรงพยาบาลแหลมฉบัง ประธานคณะกรรมการชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ผู้อำนวยการสถานศึกษา คณะครู นักเรียนเข้าร่วมงาน
นายจุมพล ฐาปนะพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารจัดการและขับเคลื่อนยุทธ์ศาสตร์องค์กร กล่าวว่า กลุ่มไทยออยล์ มีนโยบายการดำเนินงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคมและชุมชนโดยรอบ โดยดำเนินการผ่านโครงการ 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านสังคม วัฒนธรรมและประเพณี ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการศึกษา และด้านสุขภาวะ โดยโครงการต่างๆ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของ 3 ฝ่าย ประกอบด้วยชุมชนในพื้นที่ องค์กรภาครัฐส่วนท้องถิ่น และกลุ่มบริษัทไทยออยล์ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไข ร่วมรับผล และร่วมพัฒนา ทั้งนี้กิจกรรมและโครงการต่างๆ นั้นเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน และสังคมมาตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี
ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญด้านงานชุมชน โดยเมื่อปี พ.ศ. 2553 กลุ่มไทยออยล์จัดตั้งศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้กลุ่มไทยออยล์เพื่อชุมชน ขึ้น บนพื้นที่ 6 ไร่ 1 งาน เพื่อตอบสนองการดูแลสุขภาพของชุมชนในระยะยาว และใช้เป็นศูนย์รวมความร่วมมือและแหล่งเสริมสร้างองค์ความรู้ในชุมชน เพื่อพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน ภายในศูนย์สุขภาพฯ ประกอบด้วย หอพระประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่อไทยออยล์ ห้องทันตกรรม 5 ยูนิต ห้องสมุด ลานแอโรบิก เครื่องออกกำลังกายและลู่วิ่ง ซึ่งมีผู้เข้าใช้บริการกว่า 60,000 คนต่อปี
ในโอกาสครบรอบ 10 ปี กลุ่มไทยออยล์จึงได้จัดงานขึ้น ภายใต้หัวข้อ “ศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้ฯ เพื่อชุมชนของเรา” เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานอันเป็นประโยชน์ต่อชุมชน ไม่ว่าจะเป็นโครงการทันตสุขภาพ โครงการเวชศาสตร์ชุมชน โครงการสร้างเด็กแหลมฉบัง เป็นแชมป์กระโดดเชือก โครงการ English Camp โครงการอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ และโครงการอื่นๆ ที่จัดขึ้นภายในศูนย์สุขภาพฯ โดยภายในงานมีกิจกรรมจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ได้เคยร่วมดำเนินงานกันมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งศูนย์สุขภาพฯ ทั้งภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายชุมชน รวมทั้งทุกหน่วยงานที่เข้าร่วมออกบูธกิจกรรม และทุกชุมชนที่ร่วมกันในการจัดตลาดนัดสุขภาพ และหวังว่าเราจะประสานความร่วมมือกัน เป็นอย่างดีเช่นนี้ตลอดไป เป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันต่อไป