วันนี้ (26 พ.ย.61) ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง, มร.สตีเฟน แอชเวิร์ธ กรรมการผู้จัดการ ท่าเรือฮัทชิสัน ประเทศไทย, มร.ชิโร ชะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และแขกผู้มีเกียรติ ได้ร่วมในพิธีเปิดตัวเรือคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ระวาง 14,000 ทีอียู “ONE COLUMBA” ที่เดินทางเข้าเทียบท่าครั้งแรก ณ ท่าเทียบเรือ บริษัท ฮัทชิสัน แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด (D1) ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี
นายอาณัติ มัชฌิมา ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ต ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เริ่มให้บริการท่าเทียบเรือ D ระยะที่ 1 เมื่อประมาณกลางปี 2018 โดยมีปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่า (quay crane) จำนวน 3 คัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าแบบล้อยาง (RTG) ของท่าเทียบเรือชุด D รวมจำนวน 8 คัน และติดตั้งระบบปฏิบัติการแบบกึ่งอัตโนมัติ ที่ใช้เทคโนโลยีควบคุมการปฏิบัติงานระยะไกล (remote control) ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจะช่วยในการปฏิบัติงานหน้าท่าและการปฏิบัติงานภายในลานวางตู้สินค้าให้มีความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานยกขนตู้สินค้าให้กับสายการเดินเรือ, ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกได้เป็นอย่างดี
ขณะที่เรือคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ ระวาง 14,000 ทีอียู “ONE COLUMBA” เป็นสายเดินเรือที่เกิดจากการรวมกลุ่มของสายเดินเรือจากประเทศญี่ปุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก มีความยาวเกือบ 400 เมตร
ด้าน ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่มีเรือคอนเทนเนอร์ขนาด 367 เมตร เข้าเทียบท่า ณ เทียบเรือ D1 ท่าเรือแหลมฉบัง แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และงานบริการที่ดีที่สามารถสร้างความมั่นให้กับสายเดินเรือจากทั่วโลกในการเข้าใช้บริการ โดยเรือขนาดใหญ่สามารถเข้าใช้บริการ ณ ท่าเทียบเรือใดก็ได้ แต่ยังเลือกที่จะเข้าเทียบท่า ณ ท่าเรือแหลมฉบัง แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพ
ทั้งนี้เรือลำดังกล่าวเดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับตู้สินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 2,500 ทีอียู ก่อนจะเดินทางไปรับตู้สินค้าที่ ประเทศเวียดนาม, สิงคโปร์, โคลัมโบ และประเทศกุล่มยุโรป จากนั้นจะเดินทางไปยังประเทศอังกฤษ ก่อนย้อนกลับมาใช้ท่าเรือแหลมฉบังอีกครั้ง โดยมีระยะเวลาในการเดินทางรวม 63 วัน นอกจากนั้นยังจะมีเรือในกลุ่มดังกล่าวจะเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ในทุกสัปดาห์อีกด้วย
ร.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีกลุ่มสายเดินเรือขนาดใหญ่ให้ความสนใจ เข้าใช้บริการ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นจำนวนมาก อาทิ ONE COLUMBA, CNA, CTN และสายเดินเรือ MAERSK