นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และ นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง แถลงข่าว ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังสามารถจับกุมสินค้าหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อจำกัด ในการนำเข้าและส่งออก
โดยสินค้าที่จับกุมได้ประกอบด้วย 1.ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่พยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักร โดยผู้ส่งออกสำแดงชนิดสินค้าเป็น “ไม้ยางพาราแปรรูป (ฮีเวีย) (BUILDING WOOD)” ปริมาณ 36 Packages น้ำหนัก 46.033 ตัน ปริมาตร 38.039 ลูกบาศก์เมตร ส่งออกประเทศปลายทาง CHINA ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดฐานยื่นใบขนสินค้าไม่ถูกต้อง โดยหลีกเลี่ยงอากรและข้อห้าม ข้อจำกัด ในการส่งออกตามกฎหมายศุลกากร 2.เครื่องเล่นเกม 1 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยสำแดงชนิดสินค้าเป็นเครื่องเล่น (เครื่องตกปลา) (FISHING MACHINE FORMING) จำนวนหีบห่อ 20 PK น้ำหนักรวม 5,089.800 KGM มาจากประเทศ TAIWAN, PROVINCE OF CHINA ซึ่งส่งออกไปประเทศ MYANMAR โดยผลการตรวจเป็นเครื่องเล่นเกมที่ทำงานโดยใช้เหรียญ ธนบัตร หรือวิธีการชำระเงินอย่างอื่น จำนวน 20 เครื่อง และ 3.แบตเตอรี่เก่าใช้แล้ว จำนวน 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นของเสียและวัตถุอันตราย ต้องขออนุญาตนำผ่าน แต่ไม่มีใบอนุญาตนำผ่านใบอนุญาตมาแสดงแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นความผิดฐานยื่นใบขนสินค้าไม่ถูกต้อง โดยหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อจำกัด ในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร เป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากร ดังนั้นทางศุลกากรจึงยึดสินค้าทั้งหมดไว้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายกฤษฎา กล่าวต่อไปว่า สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กรมศุลกากร ได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง โดยสินค้าที่จับกุมในครั้งนี้ มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งสินค้าต่างๆ นั้นสร้างผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
