สวัสดีครับ...พบกับ www.ศรีราชาโพสต์.com โฉมใหม่!! "สร้างสรรค์ ดูแลกัน ทันเหตุการณ์" ***สวัสดีครับ...พบกับ www.ศรีราชาโพสต์.com โฉมใหม่!! "สร้างสรรคฺ์ ดูแลกัน ทันเหตุการณ์" ***ประชาสัมพันธ์ข่าวสารส่งมาได้ที่ kk.udomsuk@gmail.com

กรมทรัพฯ ประชุมประชาคมชาวบ้าน อ.เกาะสีชัง- อ.ศรีราชา พร้อมหนุนใช้มาตรา 17 ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หลังสิ่งแวดล้อมในทะเลเสื่อมโทรมหนัก โดยมีบทลงโทษที่รุนแรง


วันนี้ (3 ก.ย.61) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมประชาคม เรื่องมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบริเวณพื้นที่อำเภอเกาะสีชังและอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ณ อาคารอเนกประสงค์ศูนย์ราชการเทศบาลตำบลเกาะสีชัง อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี โดยมีนายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเกาะสีชัง, นายนิติ วิวัฒน์วานิช นายอำเภอศรีราชา, หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยชาวบ้านอำเภอเกาะสีชังและชาวบ้านอำเภอศรีราชา และผู้ประกอบการเรือสินค้า กว่า 300 คนเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ 

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมบริเวณพื้นที่เกาะสีชัง และพื้นที่ใกล้เคียง มีปัญหาและสะสมมาเป็นเวลานาน ซึ่งปัญหาดังกล่าวทางกรมทรัพฯ มีความเป็นห่วงถึงปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะปัญหาความเสื่อมโทรมของน้ำทะเล เนื่องจากบริเวณนั้นมีเรือสินค้าเข้ามาจอดขนถ่ายสินค้าเป็นจำนวนมาก ปีละหลาย 1,000  ลำ 

ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มีความเป็นห่วงแล้วร้องขอไปยังกรมทรัพฯ หามาตรการในการดูแลป้องกันปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งกรมทรัพฯ จึงเตรียมใช้มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 แต่การใช้มาตรการดังกล่าวต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วย 

นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาทางจังหวัดชลบุรี ได้มีการสอบถามความคิดเห็นประชาชนและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาแล้วหลายครั้งแล้ว และในครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพื่อเตรียมนำเข้าสู่คณะกรรมการของจังหวัด ที่มีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นประธาน จากนั้นส่งเรื่องไปที่กรมทรัพฯ เพื่อประกาศลงราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศภายใน 90 วัน 

สำหรับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะนำมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 มาใช้นั้น จะมีโทษที่รุนแรง คือ ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่การดำเนินมาตรการดังกล่าวไม่ใช่จะแก้ปัญหาที่ดี หากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนและผู้ประกอบการ แต่ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือก็ต้องใช้มาตรการดังกล่าวอย่างจริงจังต่อไป 

ด้านนายดำรงค์ เภตรา นายกเทศมนตรีตำบลเกาะสีชัง  กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความเห็นชอบ ที่จะประกาศใช้มาตรา 17 ในพื้นที่อำเภอเกาะสีชังและอำเภอศรีราชา ซึ่งหากประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จะทำให้การดูแลสิ่งแวดล้อมมีความชัดเจนขึ้น เนื่องจากพนักงานในท้องถิ่น เช่น ปลัดเทศบาล, ปลัด อบต. สามารถเข้าไปดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้เพียงแต่แจ้งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบทราบเท่านั้น แต่ในครั้งนี้สามารถเข้าไปดำเนินการได้ทันที 

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสามารถออกตรวจตราผู้ที่จะกระทำผิดได้ตลอดเวลา เมื่อนำข้อกฎหมายดังกล่าวมาปฏิบัติใช้อย่างจริงจัง ปัญหาการลักลอบทิ้ง เท หรือสร้างส่งผลกระทบต่อท้องทะเลจะดีขึ้นหรือหมดไปอย่างแน่นอน 

ด้านนายเสถียร พันธ์สืบทอง ตัวแทนผู้ประกอบการเรือสินค้า กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเจ้าของสินค้ากับผู้รับเหมาในการขนถ่ายสินค้า โดยผู้ประกอบการเรือสินค้าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในครั้งนี้ ดังนั้นทางตัวแทนผู้ประกอบการเรือสินค้า จะนำมาตรการดังกล่าวไปแจ้งให้กับเจ้าของสินค้ากับผู้รับเหมาในการขนถ่ายสินค้า ระมัดระวังปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้มาก เนื่องจากบทลงโทษที่รุนแรง










paitoon Banner2 ท่าเรือLCB ไทยออยล์ ปตท. แปซิฟิค