นายนริศ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ปลัดอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการลักลอบตัดไม้พะยูง บริเวณเขาฉลาก หมู่ 9 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายมงคล เจียมศิริ กำนันตำบลบางพระ นายจำรัส ยังอยู่สุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บางพระ นายวิกรม กามินี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.บางพระ และเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน อ.ศรีราชา กว่า 15 นาย เมื่อไปถึงพบพื้นที่ดังกล่าว อยู่ในการดูแลของค่ายลูกเสือวชิราวุธ ศรีราชา และใกล้เคียงเป็นพื้นที่ของเอกชน โดยจากการตรวจสอบแล้วพบว่าไม้พะยูงถูกตัดโค่นแล้วะเกือบ 20 ต้น และมีการตัดเป็นท่อนๆ ขนออกไปหมดแล้ว ซึ่งเหลือแต่เพียงส่วนกิ่ง ที่ขนออกไปไม่หมด โดยไม้พะยูงที่ถูกตัดโค่นนั้น มีทั้งร่องรอยเก่าและร่องรอยใหม่ ซึ่งคาดว่าลักลอบตัดมานานนับเดือนแล้ว และร่องรอยใหม่ คาดว่าเพิ่งตัดได้ประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา โดยไม้พะยูงที่ถูกตัดโค่นนั้น มีอายุ 20-50 ปี นอกจากนั้นยังพบร่องรอยการตั้งแคมป์แปรรูปไม้บริเวณกลางป่าดังกล่าวด้วย เนื่องจากพบปีกไม้ทิ้งเกลื่อนไปทั่วบริเวณ
นายมงคล เจียมศิริ กำนันตำบลบางพระ กล่าวว่า พื้นที่เขาฉลาก เป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ และมีไม้พะยูงเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมามีการลักลอบตัดไม้พะยูงอย่างต่อเนื่อง และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมอุปกรณ์ตัดไม้ที่บริเวณด้านหลังเขาฉลาก แต่ขณะนี้มีการลักลอบตัดด้านหน้าเขาฉลากแล้ว ซึ่งเป็นที่ราบเชิงเขา สามารถตัดได้อย่างสะดวกสบาย และในอนาคตไม้พะยูงที่มีเป็นจำนวนมากบนเขาฉลากคงหมดไปอย่างแน่นอน ตนไม่ทราบเหมือนกันว่า จะมีมาตรการอย่างไรในการดูแลป้องกันไม้ให้มีการลักลอบตัดไม้พะยูง เพราะที่ผ่านมามีการเฝ้าระวังไม่ให้ตัดไม้พะยูง แต่พอเจ้าหน้าที่เผลอ หรือไม่ได้ระวังก็จะลักลอบเข้ามาตัดในทันที ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก เพราะกว่าต้นพะยูงจะโตขนานนี้ต้องใช้เวลานาน 20-30 ปี
ทั้งนี้ ไม้พะยูงนั้นเป็นที่ต้องการของกลุ่มนายทุนจึงได้มีการจ้างวานกลุ่มตัดไม้เข้ามาตัดในพื้นที่ ถึงแม้จะมีเจ้าหน้าที่คอยจับกุมและกวาดล้างอยู่ตลอดก็ตาม แต่ทางกลุ่มมอดไม้ก็หาวิธีเข้ามาลักลอบตัดรูปแบบต่างๆตลอด อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งสืบสวนเพื่อขยายผลจับกุมมอดไม้ที่เข้ามาลักตัดในพื้นที่ให้หมดไป เพื่อรักษาพื้นป่าต้นไม้ให้คงอยู่ต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน และหากใครที่ทราบข่าวสามารถแจ้งได้ที่อำเภอศรีราชา ซึ่งจะเก็บข้อมูลไว้ที่ได้รับแจ้งไว้เป็นความลับ
