วันนี้ (16 พ.ย.60) ที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวจับกุมบุหรี่ปลอม จำนวน 36,120,000 มวน รวมมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 300 ล้านบาท โดยมีนายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ
โดยบุหรี่ที่จับกุมในครั้งนี้ เป็นสินค้านำเข้าทางท่าเรือแหลมฉบัง โดยใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรนำของเข้าเก็บในเขตประกอบการเสรีนิคมอุตสาหกรรมฉลุง จังหวัดสงขลา เพื่อรอการส่งออกไปจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย จากการประสานงานไปยังศุลกากรประเทศมาเลเซีย ไม่พบข้อมูลการนำเข้าบุหรี่จากประเทศไทยผ่านชายแดนแต่อย่างใด จึงเชื่อได้ว่าบุหรี่บางส่วน ได้ลักลอบนำเข้าประเทศมาเลเซีย และบางส่วนลักลอบนำกลับมาจำหน่ายในประเทศไทย
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ตรวจพบว่าสินค้าบุหรี่ที่จับกุมทั้งหมดมีการปลอมหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้า ซึ่งเป็นสินค้าต้องห้ามในการนำผ่านตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ความผิดเกี่ยวกับการแสดงฉลากบุหรี่ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ความผิดตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ และสำแดงเมืองกำเนิดเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยง ข้อห้าม ข้อกำกัด ตาม พ.ร.บ. ศุลกากร
นายกุลิศ กล่าวต่อไปว่า ด้วยกระทรวงการคลังมอบหมายให้กรมศุลกากรดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เพื่อเป็นการปรับสถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศไทย ซึ่งมีผลต่อภาพลักษณ์ด้านการค้าและการลงทุน อันมีผลต่อการปรับสถานะไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Priority Watch List - PWL) โดยได้สั่งการให้นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ดำเนินการวางแผนการจับกุม
จากการประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วย PCU (PORT CONTROL UNIT) ของสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง หน่วย CCU (CONTAINER CONTROL UNIT) ของศุลกากรประเทศเวียดนาม หน่วย CCU (CONTAINER CONTROL UNIT) ของศุลกากรประเทศมาเลเซีย และหน่วยงานกิจการพรมแดนของประเทศอังกฤษ (UK BORDER FORCE) พบว่ามีการนำเข้าสินค้าประเภทบุหรี่ที่ไม่สามารถพิสูจน์แหล่งผลิตได้ว่าผลิตในประเทศใดและผลิตโดยบริษัทอะไร อันอาจไม่ปลอดภัยกับผู้บริโภคทั้งในและนอกประเทศ ตลอดจนอาจมีการละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรนำของเข้าเก็บในเขตประกอบการเสรีตาม พ.ร.บ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 เพื่อรอการส่งออกและลักลอบนำเข้าไปจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย จึงได้แจ้งข้อมูลให้ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร พิจารณาดำเนินการตรวจสอบจับกุม
นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ สามารถตรวจยึดตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งสิ้นจำนวน 5 ตู้ มีบุหรี่ปลอม จำนวนกว่า 36 ล้านมวน มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ 300 ล้านเบื้องต้นถูกดำเนินคดี ความผิดฐานสำแดงเมืองกำเนิดเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยง ข้อห้าม ข้อกำกัด อันเป็นความผิดตามมาตรา 99, 27 แห่ง พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) 2482 มาตรา 108-110 (1) แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 มาตรา 31 อนุ 1, อนุ 4 พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ และมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ. ห้ามนำของที่มีการแสดงเมืองกำเนิดเป็นเท็จ พุทธศักราช 2481 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป